การเคลือบแก้วปัจจุบันนี้มีมากขึ้น

สวัสดีคนรักรถทุกท่านครับ มีหลายคนสอบถามผมมาถึงเรื่องของการเคลือบเงารถว่าการเคลือบเงารถด้วยวิธีเคลือบแก้วนั้นถ้าหากว่าเราอยากเปลี่ยนจากการเคลือบแก้วมาเป็นวิธีอื่นในภายหลังจะสามารถทำได้หรือไม่ดังนั้นในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันครับ การเคลือบแก้วรถยนต์นั้นถ้าจะพูดถึงกรรมวิธีเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนแล้วก็ต้องบอกว่ามันมีกรรมวิธีคล้ายคลึงกันกับการติดฟิล์มรถยนต์หรือการติดฟิล์มบนตัวถังรถนั่นแหละครับซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกรรมวิธีที่พิเศษดังนั้นเราจึงสามารถลอกออกมาเมื่อไม่ต้องการใช่หรือเพื่อเปลี่ยนใหม่ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ใช้บริการการเคลือบแก้วแล้วโดยมากก็มักที่จะหยุดอยู่กับมัน ไม่หันไปหากรรมวิธีการเคลือบรถแบบอื่นๆ อีกเพราะเนื่องจากว่าเทคโนโลยีเคลือบแก้วบนตัวรถนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ดีสุดอยู่ในขณะนี้นั่นเองครับ ในปัจจุบันยอดของผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้การเคลือบเงาแบบธรรมดาเริ่มลดลงเรื่อยๆ แล้วครับเพราะคนส่วนใหญ่ไมว่าจะเป็นเจ้าของรถที่เพิ่งซื้อมาใหม่หรือมีการใช้งานมานานแล้วเริ่มหันมาใช้การเคลือบแก้วมากกว่าแต่ก่อนดังนั้นในไม่ช้านี้ผมเองเชื่อว่าเทคโนโลยีการเคลือบเงารถแบบธรรมดาๆ จะเริ่มหายไปอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าการเคลือบแก้วจะมีราคาค่อนข้างสูงก็ตามทีแต่ไม่นานหลังจากนี้ด้วยภาวการณ์แข่งขันทางการตลาดที่มีสูงขึ้นและมีร้านรับทำที่เกิดใหม่ขึ้นทุกวันจะทำให้ราคาของมันลดต่ำลงมาเองครับ ขอให้อดใจรอสักหน่อย

สิ่งที่เปลี่ยนไปในงานมอเตอร์โชว์

หลังจากที่ผมกลับมาจากงานมอเตอร์โชว์เป็นที่เรียบร้อยแล้วผมเองได้พบกับสัจธรรมจากการที่ไปงานดังกล่าวอยู่อย่างหนึ่งว่าของทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรที่มั่นคงได้ตลอดเพราะเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็ย่อมมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเพื่อให้เกิดความอยู่รอดไม่เว้นแม้แต่วงการรถใหม่ๆ ในบ้านเราก็เข้าข่ายที่ว่านี้ด้วยเช่นกันซึ่งผมจะเล่าให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้ฟังกันในบทความตอนนี้ครับ                สิ่งแรกที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดเลยก็คือการเปลี่ยนแปลงของบรรดาเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับรถใหม่ๆ ของทุกค่ายไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไฮบริด เทคโนโลยีการสตาร์ทรถแบบไม่ต้องใช้กุญแจรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ได้เห็นก็คือการทำการตลาดสำหรับรถใหม่เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมากโดยการตลาดในรูปแบบเดิมๆ นั้นมักจะเน้นไปที่การดาวน์น้อยผ่อนนานเสียเป็นส่วนใหญ่แต่ในปัจจุบันโปรโมชั่นดาวน์น้อยผ่อนนานที่ว่านี้ดูจะเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปเสียแล้วครับเพราะตอนนี้คนขายทั้งหลายมักจะชูโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม กันเป็นหลัก ส่วนในเรื่องของการผ่อน การดาวน์นั้นก็มีการทำการตลาดจูงใจลูกค้าให้มากขึ้นอาทิเช่นการให้ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตที่ลูกค้าสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ได้นับว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของการซื้อขายรถในบ้านเราเลยทีเดียวเชียวครับ ทั้งสองเรื่องที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจนสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดเท่านั้นนะครับซึ่งแท้จริงแล้วยังมีอีกมากซึ่งหากใครอยากรู้ล่ะก็ลองหาโอกาสไปเยี่ยมชมงานมอเตอร์โชว์สักครั้งก็จะได้คำตอบ

ฮอนด้าให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

ลองทายกันเล่นๆ ฮะว่าอะไรคือสิ่งที่ทาง Honda ภาคภูมิใจมากที่สุด รถยนต์? พนง.? หรือยอดขาย? หากถ้าคำตอบที่ท่านคิดอยู่ใน 3 ข้อนี้แล้วล่ะก็ย่อมขอปรากฏความเจ็บใจเช่นกันฮะที่ไม่ได้ไปต่อเพราะความภาคภูมิใจมากที่สุดของฮอนด้าเองนั้นไม่ใช่สิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยถ้าแต่เป็นเรื่องของเทคโนโลยีต่างหาก                แต่ไหนแต่ไรมาแล้วทางผู้บริหารของค่ายรถฮอนด้าทุกรุ่นได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีต่างๆนาๆ มากคือสำคัญเพราะพวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีที่ดีจะอาจจะช่วยให้เกิดงานที่ดีซึ่งก็คือจริงตามนั้นทุกประการเพราะในอดีตสมัยที่ฮอนด้าเพิ่งเปิดตัวเข้าสู่วงการรถใหม่ๆ นั้น รถของ Honda แทบจะอาจไม่มีสิ่งใดที่โดดเด่นหรือว่าแตกต่างไปจากรถค่ายอื่นเลยซึ่งหากจะอาจคุยให้เข้าใจสะดวกขึ้นไปก็เป็นฮอนด้า copy งานของรถค่ายอื่นมาเป็นของตัวเองนั่นเองขอรับ                ต่อมาเมื่อ Honda ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมินี้อย่างเต็มตัวผู้บริหารยุคก่อตั้งจึงเริ่มหันมาลงทุนกับการวิจัยพร้อมกับดัดแปลงเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คือประโยชน์ต่อการผลิตรถยนต์สำหรับประชาชนในยุคปัจจุบันนี้พร้อมทั้งยุคภายหน้ามากๆขึ้นไป โดยผู้บริหารยุคนั้นยอมลงทุนในส่วนนี้เยอะถึง 70% เลยทีเดียว ในตอนนั้นมีพนง.ระดับสูงหลายคนที่ต่อต้านแต่ก็ไม่เป็นผลซึ่งก็จะต้องขอขอบคุณความดื้อรั้นของผู้บริหารสมัยนั้นจริงๆ ครับเพราะว่าถ้าถ้าไม่มีเขาในวันนั้นก็ยังจะคงจะไม่มีฮอนด้าในวันนี้เช่นกันเป็นต้นว่ากัน                ปัจจุบันนี้ฮอนด้าเองก็คงยังวิจัยและเปลี่ยนเทคโนโลยีอันล้ำหน้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอสำหรับนำคำตอบที่ได้นั้นมาปรับใช้กับรถของตนอันจะอาจช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุดดังเป็นต้นว่าผลงานชิ้นโบว์แดงของเขา “อาซิโม”